25 ก.พ.-07 มีนาคม 2562 |
05.30 น. พร้อมกัน ณ สนามบินดอนเมือง อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ชั้น 3 นัดหมายเคาน์เตอร์ สายการบิน ไทยแอร์เอเชีย (FD) ประตูที่ 2 โดยมีเจ้าหน้าที่จากทางบริษัทฯ คอยต้อนรับให้การบริการ และอำนวยความสะดวกต่างๆ ในเรื่องเอกสาร และสัมภาระในการเดินทางให้กับทุกท่าน เช็ค-อิน ส่งมอบกระเป๋าเดินทาง สัมภาระตรวจสอบบัตรที่นั่งหนังสือเดินทาง วีซ่า
08.20 น. ออกเดินทางสู่…เมืองคยา โดยสายการบิน ไทยแอร์เอเชีย เที่ยวบิน FD 122
10.10 น. (เวลาท้องถิ่น)
เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติ เมืองคยา (ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร เนื่องจากอาคารผู้โดยสารขาเข้าของเมืองคยา การบริการของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองยังไม่พร้อมให้บริการเต็มที่อาจทำให้ท่านผู้เดินทางไม่ได้รับความสะดวกและล่าช้า กรุณาเตรียมใจ) บริการของเอ็นซีทัวร์จัดรถรอรับ
ท่านที่สนามบิน
11.00 น. รับประทานอาหารกลางวันที่โรงแรม
14.00 น. นำชม แม่น้ำเนรัญชรา
ชมสถานที่พระพุทธองค์ทรงอธิษฐานลอยถาด หลังจากรับถวายข้าวมธุปายาส จากนางสุชาดา ชมซากสุชาดาสถูปที่สันนิษฐานว่าสร้างโดยพระ เจ้าอโศกมหาราช บริเวณสถานที่ซึ่งเคยเป็นบ้านนางสุชาดา
16.00 น. นำท่านสู่ พระมหาโพธิเจดีย์พุทธคยา ซึ่งสร้างโดยพระเจ้าหุวิชกะ ในพุทธศตวรรษที่ 7 โดยมีรูปแบบผสมผสานเจดีย์ แบบพุทธ ตั้งอยู่เหนือปรางค์แบบฮินดู จนเกิดเอกลักษณ์เฉพาะตัว นมัสการ ต้นพระศรีมหาโพธิ์ สถานที่ตรัสรู้ซึ่งปัจจุบันเป็นต้นที่ 4 นมัสการพระแท่นวัชรอาสน์ ซึ่งพระเจ้าอโศกมหาราชสร้างถวายไว้ตรงสถานที่ ที่เคย
เกิดรัตนบัลลังก์เมื่อวันตรัสรู้ นมัสการ สัตตมหาสถาน ที่พระพุทธองค์เสวยวิมุติสุข 7 สัปดาห์หลังตรัสรู้กราบพระพุทเมตตา อันศักดิ์สิทธิ์ที่ประดิษฐานภายในพระมหาโพธิเจดีย์มาแต่โบราณ ชมสถานที่สำคัญโบราณสถานโบราณวัตถุที่ล้อมรอบบริเวณอยู่มากมายนำท่านไหว้พระสวดมนต์ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์
สถานที่ตรัสรู้
19.00น. นำท่านเดินทางสู่..โรงแรม ANAND HOTEL หรือเทียบเท่า // พักค้างคืน
19.30น. ถวายน้ำปานะ // รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรม // พักค้างคืน
05.00 น. ถวายภัตตาหารเช้า // รับประทานอาหารเช้า ที่โรงแรม
06.00 น. นำท่านออกเดินทางสู่…
ราชคฤห์ นครหลวงแห่งแคว้นมคธ อันเจริญรุ่งเรืองเมื่อสมัยพุทธกาลปกครองโดยพระเจ้าพิมพิสาร (ใช้เวลาเดินทาง
ประมาณ 2.30 ชั่วโมง)
08.30 น. เดินทางถึง…ราชคฤห์ ซึ่งยัง
ปรากฏกำแพงเชิงเทินล้อมรอบตามสันเขาทั้ง 5 ลูก เป็นปราการอันเข้มแข็งคล้ายกำแพงเมืองจีน นำท่านขึ้น เขาคิชกูฏสถานที่ซึ่งพระพุทธองค์ทรงโปรดประทับมากที่สุดในเมืองนี้ นมัสการพระมูลคันธกุฎีพระพุทธองค์บนยอดเขานมัสการกุฏิพระอานนท์ ถ้ำสุกรขาตาที่พระสารีบุตรบรรลุพระอรหันต์ ชมสถานที่พระเทวทัตกลิ้งหินใส่พระพุทธองค์ ชมวิวทิวทัศน์ของเมืองราชคฤห์อันล้อมรอบด้วยภูเขาทั้ง 5 ลูก จากเบื้องสูงลงจากเขาคิชกูฏแล้ว ( การขึ้นเขาคิชกูฏ ซึ่งเป็นการเดินขึ้นที่สูง ลาดชันพอประมาณ ระยะทางโดยรวมประมาณ 750 เมตร ทุกท่านจะต้องเดินขึ้นรถยนต์ไม่สามารถขี้นไปถึงได้ ผู้ที่แข็งแรงสามารถเดินขึ้นได้ ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาทีก็ถึง สำหรับท่านที่คิดว่าเดินไม่ไหว ก็สามารถขึ้นได้โดยวิธีการนั่งเสลี่ยง คนหามขึ้น-ลงได้ แต่ต้องแจ้งล่วงหน้าก่อน เพื่อติดต่อแขกให้เตรียมคานหามไปรอที่เชิงเขา ) ราคานี้ไม่รวมในรายการ ระหว่างทาง นำท่านผ่านชมวัดชีวกอัมพวันของพ่อหมอชีวกโกมารภัจน์ ซึ่งเคย
เป็นที่ปฐมพยาบาลพระพุทธเจ้ เมื่อถูกพระเทวทัตลอบทำร้ายและยังนับเป็นโรงพยาบาลสงฆ์แห่งแรกของโลก
11.00 น. ถวายภัตตาหารเพล //รับประทานอาหาร
กลางวัน ณ ภัตตาคาร ของโรงแรม เรสซิเดนซี่ ราชคฤห์
12.00 น นำท่านชม
วัดเวฬุวนาราม วัดแห่งแรกของโลกที่พระเจ้าพิมพิสารสร้างถวายพระพุทธองค์ และ ณ ที่นี้ได้เกิดเหตุการซึ่งพระสงฆ์1,250 รูป ล้วนเป็นเอหิภิกขุ มาประชุมพร้อมกัน โดยมิได้นัดหมาย ที่เรียกว่า “มาฆบูชา” แล้วชม ตโปธาร น้ำแร่ร้อนซึ่งกล่าวกันว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ไหลผ่านนครชั้น “โลหกุมภีร์” ชาวฮินดูเชื่อว่าเมื่ออาบแล้วจะได้บุญสามารถรักษาโรคร้ายได้ สร้างที่อาบน้ำเป็นชั้นตามความเชื่อเรื่องวรรณะ
13.00 น นำท่าน
เดินทางสู่…นาลันทา เมืองบ้านเกิดของพระสารีบุตร อัครสาวกเบื้องขวาของพระพุทธเจ้า นำชม มหาวิทยาลัยนาลันทา มหาวิทยาลัยสงฆ์ แห่งแรกของโลกที่เคยรุ่งเรือง และยิ่งใหญ่ เมื่อพันปี มาแล้ว โดยเป็นศูนย์กลางพุทธศาสนาในสมัยโบราณมีนักศึกษามาจากนานาประเทศรวมทั้งพระถังซังจั๋งจากเมืองจีน
15.00 น นำท่าน
สักการะหลวงพ่อพระองค์ดำ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์แกะสลักด้วยหินแกรนิตสีดำ เดิมประดิษฐานอยู่ในมหาวิทยาลัยนาลันทา ต่อมาเมื่อมหาวิทยาลัยถูกเผาทำลายแต่องค์พระกลับยังคงอยู่อย่างเกือบจะสมบูรณ์และแวะซื้อขนมขาชา ที่มีชื่อเสียงมาแต่ครั้งพุทธกาลชาวบ้านเรียกว่า เตลิยบาบา หรือหลวงพ่อน้ำมัน
16.00 น นำท่านออก
เดินทางกลับสู่…พุทธคยา (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง)
19.00 น นำท่านเข้าสู่ที่พัก โรงแรม // ถวายน้ำปานะ // รับประทานอาหารค่ำ ที่โรงแรม
06.00 น. ถวายภัตตาหารเช้า // รับประทานอาหารเช้า ที่โรงแรม
07.00 น. นำท่านออกเดินทางสู่…เมืองพาราณสี (ระยะทางประมาณ 276 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชม.)
11.00 น. ถวายภัตตาหารเพล // รับประทานอาหาร
กลางวันที่ แบบปิกนิก ระหว่างทาง
15.00 น เดินทางถึง เมือง
พาราณสี เมืองเก่าแก่กว่า 4,000 ปี ริมฝั่งแม่น้ำคงคาอันศักดิ์สิทธิ์
16.00 น นำท่านล่อง
แม่น้ำคงคาชมพิธีบูชาไฟ และ การเผาศพ ของชาวฮินดูที่สืบทอดกันมาอย่างช้านาน รวมทั้งเป็นสถานที่คนนับล้านมุ่งหน้ามาเพื่อชมพิธีกรรมริมฝั่งแม่น้ำคงคาอันศักดิ์สิทธิ์ (พิธีเผาศพริมแม่น้ำคงคาของศาสนาฮินดู)
19.00 น รับประทานอาหารกลางค่ำที่โรงแรม และพักค้างคืน
07.00 น. ถวายภัตตาหารเช้า // รับประทานอาหารเช้า ที่โรงแรม
08.00น. ออกเดินทางสู่…สารนาถ ( อยู่ห่างจากเมืองพาราณสี ประมาณ 7 กิโลเมตร )
08.30 น. นำท่านชมพิพิธภัณฑ์สารนาถ ซึ่งเก็บโบราณวัตถุล้ำค่า โดยเฉพาะหัวเสาของพระเจ้าอโศกมหาราชซึ่งเป็นรูปสิงห์ 4 ทิศที่งดงามและสมบูรณ์ที่สุดใช้เป็นตราแผ่นดินของประเทศอินเดียในปัจจุบัน ชมพระพุทธรูปปางแสดงปฐมเทศนาที่งดงามเป็นเลิศ เป็นศิลปะคุปตะยุคทองของพุทธศิลป์อินดีย อายุกว่า 1,500 ปี แล้วที่ชนะการประกวดประติมากรรมมาแล้วนานาชาติจนได้รับการยกย่องว่าเป็นพระพุทธรูปที่งดงามที่สุดในโลก
09.00 น. นำท่านสู่…ป่าอิสิปตน มฤคทายวัน สถานที่แสดงปฐมเทศนา นมัสการเจาคันธีสถูป สถานที่พระพุทธองค์พบปัญจวัคคีย์ นำท่าน นมัสการ ธัมเมกขะสถูป สถานที่ทรงแสดงปฐมเทศนาโปรดปัญจวัคคีย์ และเกิดพระรัตนตรัยขึ้นเป็นครั้งแรกในโลก ธรรมราชิกสถูป ที่พระอัญญาโกณฑัญญะบรรลุอรหันต์ พระมูลคันธกุฏิ กุฏิหลังแรกที่พระพุทธองค์จำพรรษาเป็นพรรษาแรก เสาพระเจ้าอโศกที่มีจารึกอักษรพราหมี หมู่สังฆารามกุฎิสงฆ์กว่า 1,000 หลัง สถูปพระยสกุลบุตร สวนกวาง อันเป็นที่มาของชื่อ “อิสิปตนมฤคทายวัน” นำท่านสวดมนต์บท “ธรรมจักรกัปวัตนสูตร” ปฏิบัติธรรมเวียนเทียนบริเวณธัมเมกขะสถูป ผู้ต่อสู้เพื่อนำพระพุทธศาสนาคืนสู่ พุทธภูมิ
11.30 น. ถวายภัตตาหารเพล //
รับประทานอหารกลางวัน ที่โรงแรม
13.00 น. นำท่านเดินทางสู่ เมืองกุสินารา (ระยะทางประมาณ 270 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมง)
20.00 น. ถวายน้ำปานะ //
รับประทานอาหารค่ำ ที่ โรงแรม โลตัสนิโก้ LOTUS NIKKO HOTEL หรือเทียบเท่า
** ( โปรดเตรียมหนังสือเดินทางไว้กับตัวเพื่อประทับตราออกจากประเทศอินเดีย เข้าสู่ประเทศ เนปาล ) **strong>
06.00 น. ถวายภัตตาหารเช้า // รับประทานอาหารเช้า ที่โรงแรม
07.00 น. นำท่านนมัสการ สถานที่
ปรินิพพานนำท่านนมัสการสถานที่ปรินิพพาน ณ ซึ่งมีต้นสาละปลูกเพื่อเป็นอนุสสติถึงพระพุทธองค์ นมัสการมหาปรินิพพานสถูปซึ่งมีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงบาตรคว่ำสูงใหญ่ มีฉัตร 3 ชั้นตอนบนสุด เคยพังลงมาเมื่อปี 2506 ปัจจุบันได้บูรณะแล้ว ด้านหน้าเป็นมหาปรินิพพานวิหาร ภายในมี พระพุทธรูป ปางปรินิพพาน ฝีมือช่างชาวมถุรา สร้างด้วยหินทรายแดง อายุกว่า 1,900 ปี ที่งดงามยิ่ง โดยรอบยังปรากฏซากโบราณสถาน หมู่กุฎิสงฆ์สถูปเจดีย์ต่างๆ มากมาย แสดง
ถึงความเจริญรุ่งเรืองของพุทธศาสนาในสมัยโบราณนับเป็นพันปี ก่อนที่พระพุทธศาสนาจะเสื่อมไปจากอินเดีย
จากนั้น นำท่าน นมัสการมกุฏพันธนเจดีย์ สถานที่ถวายพระเพลิงพระสรีระของพระพุทธเจ้า ซึ่งเหล่าบรรดามัลละกษัตริย์ ได้ถวายสถานที่นี้อันเคยใช้เป็นที่ประกอบพิธีสวมมงกุฎ รับตำแหน่งกษัตริย์แห่งแคว้นมัลละมาแต่โบราณ ซึ่งปัจจุบันเป็นซากเจดีย์ทรงกลมขนาดใหญ่สร้างในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ตั้งอยู่ห่างจากสาลวโนทยานประมาณ 1 กิโลเมตร
11.00 น. ถวายภัตตาหารเพล //รับประทานอาหารกลางวันที่โรงแรม
12.00 น. นำท่านเดินทางสู่…ลุมพินี (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง)
16.00 น. เดินทางถึง.ณ วัดไทยนวราชรัตนาราม 960 แดนสุขาวดี ศาลาพักข้างทางของผู้แสวงบุญ
16.30 น. เดินทางถึงชายแดน อินเดีย-เนปาล ประทับตราหนังสือเดินทางเพื่อผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง
18.00 น. เดินทางถึง…ลุมพินี // นำท่านเดินทางสู่…โรงแรม พุทธมายา BODHMAYA GARDEN HOTEL หรือเทียบเท่า
19.00 น. ถวายน้ำปานะ // รับประทานอาหารค่ำ ที่โรงแรม
**( โปรดเตรียมหนังสือเดินทางไว้กับตัวเพื่อประทับตราออกจากประเทศ เนปาล เข้าสู่ประเทศ อินเดีย)** strong>
06.00 น. ถวายภัตตหารเช้า // รับประทานอาหารเช้า ที่โรงแรม
07.00 น. </span > นำท่านนมัสการสังเวชนียสถาน
สถานที่ประสูติของพระพุทธองค์ สวนลุมพินีวัน ในอดีตเป็นอุทยาน ตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่าง กรุงกบิลพัสตุ์ และกรุงเทวหะพระพุทธมารดา พระนางสิริมหามายา ซึ่งประทับอยู่กรุงกบิลพัสตุ์ขณะที่ทรงพระครรภ์แก่ ได้เสด็จประพาสสวนพร้อมด้วยข้าราชบริพาร ระหว่างทางเกิดประชวรจะมีพระประสูติกาล ราชบริพารจึงจัดที่ประสูติถวายภายใต้ต้นสาละ ประสูติพระโอรส คือ สิทธัตถกุมาร ณ สถานที่นี้ ปัจจุบันมีเสาหินของพระเจ้าอโศก ปรากฏอยู่ ยังมีข้อความภาษาพราหมีจารึก
นำท่านชมมหามายาเทวีวิหาร ภายในมีศิลาสลักภาพพุทธประวัติปางประสูติเป็นรูปพุทธมารดาอยู่ในพระอิริยาบถยืนพระหัตถ์ขวาเหนี่ยวกิ่งไม้สาละมีรูปเจ้าชายสิทธัตถะออกมาทางปัสสะขวาของพระพุทธมารดา ด้านหน้ามหามายาเทวีวิหาร มีสระโบกขรณี ซึ่งเป็นที่สรงสนานของพระนางสิริมหามายาเทวีก่อนจะให้ประสูติกาลพระกุมารและหลังการประสูติ / หลังจากนั้นนำท่านเดินทางกลับผ่านด่านชายแดนอินเดีย – เนปาลอีกครั้งหนึ่ง
11.00 น. ถวายภัตตาหารเพล //รับประทานอาหารกลางวันที่โรงแรม
12.00 น. นำท่านออกเดินทางสู่..กรุงสาวัตถี (ระยะทางประมาณ 206 กม.ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5-6 ชม.)
13.00 น. เดินทางถึงชายแดน อินเดีย-เนปาล ประทับตราหนังสือเดินทางเพื่อผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง
18.00 น. </span > เดินทางถึง…เมืองสาวัตถี // รับประทานอาหารกลางวัน ณ โรงแรม
19.00 น. </span > ถวายน้ำปานะ // รับประทาน
อาหารค่ำ ที่โรงแรมปาวาล PAWAN HOTEL หรือเทียบเท่า
** **
05.00 น. ถวายภัตตาหารเช้า // รับประทานอาหารเช้า ที่โรงแรม
06.00 น. นำท่านเดินทางสู่…ซากเมืองโบราณสาวัตถี ที่ล้อมรอบด้วยกำแพงดินโบราณสูงใหญ่ ภายในเมืองนำชมซากคฤหาสน์ของท่าน อนาถบิณฑิกเศรษฐี ชมซากบ้านท่านปุโรหิตบิดาของท่านองคุลีมาล ชมสถานที่ธรณีสูบพระเทวทัต และนางจิญจมาณวิกา
จากนั้น นำท่านชม พระเชตะวันมหาวิหาร วัดที่ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีสร้างถวาย ซึ่งพระพุทธองค์ประทับใจพรรษานานถึง 19 พรรษา นำนมัสการพระมหามูลคันธกุฎี ฤดูร้อน ฤดูหนาว ฤดูฝน ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าที่ยอดเขาคิชกูฏ เมืองราชคฤห์ประมาณ 2 เท่า ชมธรรมศาลาที่ใหญ่ที่สุด สังฆสภาที่ประชุมตัดสินอธิกรณ์คดีความต่าง
11.00 น. ถวายภัตตาหารเพล // รับประทานอาหารกลางวันที่ โรงแรม
13.00 น. นำท่านเดินทางสู่…เมืองลักเนาว์
ระยะทางประมาณ 175 ก.ม. (ใช้เวลาประมาณ 6 ชม.)
19.00 น. เดินทางถึง…เมืองลัคเนาว์ //นำ
ท่านเข้าสู่โรงแรม PICCADILY หรือเทียบเท่า
20.00 น. </span > ถวายน้ำปานะ //รับประทาน
อาหารค่ำ ณ โรงแรม // พักค้างคืน
06.00 น. ถวายภัตตาหารเช้า //รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม
07.00 น. นำท่านเดินทางสู่…เมืองอัคระ (ระยะทางประมาณ 363 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง)
11.00 น. ถวายภัตตาหารเพล //
รับประทานอาหารกลางวัน แบบปิกนิค ระหว่างทาง
15.00 น. เดินทางถึง…เมืองอัคระ นำท่านชม ทัชมาฮาล อนุสรณ์สถานแห่งความรักอันยิ่งใหญ่ของมหาราชาชาห์จาฮันที่มีต่อนางอันเป็นที่รักยิ่งมหารานีมุมตัส มาฮาล ตัวทัชมาฮาลสร้างจากหินอ่อนสีขาวแสดงถึงความรักที่บริสุทธิ์ นิรันดร์ตลอดกาลและหินทรายสีแดงแสดงถึงความรักที่มั่นคงต่อพระนางเพียงผู้เดียว ตัชทัชมาฮาลประดับประดาด้วยรัตนชาตินานาชนิด ใช้เวลาในการสร้างถึง 22 ปี ชมวิวแม่น้ำยมุนาที่ไหลผ่านด้านหลัง ได้เวลาพอสมควร
19.00 น. ถวายน้ำปานะ // รับประทานอาหารค่ำ ที่โรงแรม // พักค้างคืน
07.00 น. ถวายภัตตาหารเช้า //
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม
08.00 น. นำท่านชม พระราชวังอัคราฟอร์ด ซึ่งเป็นพระราชวังที่สวยงาม มีบริเวณกว้างใหญ่ ใช้เวลาในการก่อสร้างถึง 3 สมัยตั้งแต่พระเจ้าอักบาร์มหาราชจนถึงพระเจ้าชาห์จาฮาน กษัตริย์องค์ที่ 5 ของราชวงศ์โมกุลเป็นผู้สร้างต่อจนเสร็จ ภายในอัคราฟอร์ดมีห้องสวยงามที่สร้างด้วยหินอ่อนแกะสลักฝังอัญมณีโดยรอบ โดยเฉพาะห้องมุขแปดเหลี่ยม ซึ่งเป็นห้องที่มีความสำคัญที่สุดภายในพระราชวังแห่งนี้ และภายในห้องนี้อันเป็นสถานที่ ที่พระเจ้าชาห์จาฮานถูกพระเจ้าออรังเซปพระโอรสจับมาขังไว้จนสิ้นพระชนม์
11.00 น. ถวายภัตตาหารเพล //
รับประทานอาหารกลางวัน ณ โรงแรม
12.00 น. นำท่านเดินทางสู่…“เมืองชัยปุระ” (Jaipur) หรือ “นครสีชมพู” เมืองหลวงของรัฐราชสถานซึ่งถือกันว่าเป็นเมืองสวยงามมีสีสันมากที่สุดเมืองหนึ่งในอินเดีย (ระยะทางประมาณ 229 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4-5 ชั่วโมง) เมืองชัยปูร์ (Jaipur) เมืองใหญ่ที่สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1728-1732 ตัวเมืองมีขนาดถึง 9 ตารางกิโลเมตร ถูกเรียกว่าเป็นเมืองสีชมพูมานานแล้วเพราะว่ามีการใช้หินสีชมพูที่มีอยู่มากมายในท้องถิ่น ภูมิภาคนี้มีมรดกทางวัฒนธรรมที่แข็งแกร่งเป็นหลักฐานอย่างชัดเจน
นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งงานหัตกรรมอันวิจิตร สิ่งทอสวยงาม เครื่องประดับ
ระหว่างทางแวะชม “ เมืองฟเตหปุระสีกรี ” ( Fatehpur Sikri ) เป็นเมืองตั้งอยู่ในเขตอำเภออัคระ รัฐอุตตระประเทศ โดยสมเด็จพระจักรพรรดิอักบัร มหาราช แห่งราชวงศ์โมกุล แต่เดิมเรียกว่า ฟาติฮาบัท แปลว่า “เมืองแห่งชัยชนะ” ด้วยในตอนนั้นกษัตริย์อัคบาร์ได้ชัยชนะในสงครามอินเดียตอนใต้ ต่อมาภายหลังจึงเพี้ยนมาเป็นฟาติปูร์ซึ่งเมืองนี้สร้างด้วยหินทรายสีแดงตั้งอยู่บนภูเขาใกล้หมู่บ้านสิครี ใช้เวลาสร้างถึง 9 ปีจึงแล้วเสร็จ แต่หลังจากนั้นเพียง15ปีก็กลายเป็นเมืองร้างเพราะว่าขาดน้ำในการดำรงชีวิต เมืองนี้เป็นที่เดียวในอินเดีย ที่ท่านจะสามารถชมศิลปกรรมของราชวงศ์โมกุลที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์แบบที่สุดจนได้รับสมญานามว่า เมืองปีศาจ อยู่ห่างจากเมืองอัครา ประมาณ 40 กม.ปัจจุบันเป็นที่แห้งแล้งจัด แต่ภายในป้อมปราการยังคงถูกรักษาไว้อย่างดี และยังใช้เป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิโมกุลระหว่างปี ค.ศ. 1571-1585 ภายหลังจากชัยชนะจากสงครามกับชาวเมืองจิตเตารครห์( Chitaurgarh )
19.00 น. นำท่านเข้าสู่ที่พัก โรงแรม
CROWN PLZA HOLIDAY INN
20.00 น. ถวายน้ำปานะ // รับประทานอาหารค่ำ ที่โรงแรม
06.00 น. ถวายภัตตาหารเช้า // รับประทานอาหารเช้า ที่ โรงแรม
07.00 น. นำเดินทางสู่เชิงเขาอราวารี ขึ้นไปชมความงามของพระราชวังแอมเบอร์ ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่บนภูผาชมพระราชวัง เพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพสองข้างทางซึ่งสามารถมองเห็นภูมิประเทศเบื้องล่างสุดสายตา พระราชวังแห่งนี้เริ่มสร้างโดยพระเจ้ามั่นใจซิงค์ที่ 1 ในปี ค.ศ.1592 จนสำเร็จในยุคของพระเจ้าชาไวใจ ซิงค์ที่ 2 ต่อมาพระองค์ได้ย้ายเมืองหลวงลงมายังเมืองชัยเปอร์ ในปัจจุบันภายในพระราชวังแอมเบอร์ ท่านจะได้ชมพระราชวังฤดูร้อนและพระราชวังฤดูหนาวที่ประดับด้วยพลอยหลากสี ท่านจะ
ตื่นตะลึงกับห้องที่ประทับในพระราชวังฤดูร้อนที่งดงาม โดยจำลองความงามของท้องฟ้ายามราตรีจากนั้น
11.00 น. ถวายภัตตาหารเพล // รับประทานอาหารกลางวัน ที่โรงแรม
12.00 น. นำท่านชม พระราชวังซิตี้พาเลซ
(City Palace) สร้างขึ้นในสมัยมหาราชาสะหวายจัย ซิงห์ที่ 2 จากนั้นก็ได้รับการดูแลต่อเติมโดยมหาราชาของชัยปุระรุ่นต่อๆ มา ที่สำคัญตอนเริ่มก่อสร้างพระราชวัง ยังอยู่ในช่วงที่ราชวงศ์โมกุลเข้ามามีอิทธิพลต่อรัฐราชสถานแล้วสถาปัตยกรรมจึงมีการผสมผสนระหว่างแบบราชปุตกับโมกุล นอกจากนี้ การออกแบบพื้นที่ใช้สอยอาคารอย่างลงตัว ไม่แน่นทึบ และมีทางเดินกว้างขวาง ซึ่งถือเป็นความน่าสนใจอย่างหนึ่งของพระราชวังแห่งนี้ โดยปัจจุบันพระราชวังซิตี้
พาเลซได้เปิดให้ประชาชนเข้าชมในนามของพิพิธภัณฑ์สะหวายมานสิงห์ (Sawai Man Singh Museum) แม้ยุคนี้จะไม่มีมหาราชาอีกต่อไป แต่ City Palace แห่งนี้ก็ยังเป็นสมบัติส่วนพระองค์ และชาวเมืองชัยปุระบางส่วนก็ยังนับถือพระองค์อยู่แม้พระองค์จะไม่มีอำนาจใดๆ
14.00 น. นำท่านชมจาล มาฮาล หรือพระราชวังกลางน้ำซึ่งตั้งเด่นสง่าอยู่กลางทะเลสาบมันสกา (Man Sagar) ใกล้กับชัยปุระ โดยพระราชวังแห่งนี้และทิวทัศน์ของทะเลสาบโดยรอบถูกต่อเติมและปรับปรุงโดยมหาราชา สะหวาย จัย สิงห์ที่ 2 ตัวพระราชวังนั้นสร้างได้อย่างสวยงามตามสถาปัตยกรรมราชปุตและโมกุล ซึ่งสามารถพบได้ทั่วไปในสิ่งก่อสร้างในรัฐราชสถาน โดยพระราชวังนี้นั้นมีความสวยงามเนื่องจากสถานที่ตั้งอยู่กลางทะเลสาบและโดยมีเทือกเขานหาร์การห์ตั้งอยู่เบื้องหลัง ตัวอาคารสร้างโดยใช้หินทรายสีแดงประกอบด้วยทั้งหมด 5 ชั้นซึ่ง 4 ชั้นล่างจะถูกน้ำท่วมเมื่อทะเลสาบมีระดับน้ำสูงสุด โดยเหลือเพียงชั้นบนสุดซึ่งจะเผยขึ้นมาเหนือน้ำ ฉัตรีซึ่งเป็นยอดหลังคาทรงสี่เหลี่ยมนั้นสร้างในแบบสถาปัตยกรรมเบงกอล ส่วนฉัตรีบริเวณสี่มุมของอาคารนั้นเป็นทรงแปดเหลี่ยม เนื่องจากตั้งอยู่ในน้ำเป็นเวลาอันยาวนานทำให้ฐานของพระราชวังนั้นเริ่มทรุดโทรมลงเนื่องจากกระแสน้ำและน้ำท่วม โดยล่าสุดได้มีโครงการบูรณะครั้งใหญ่ซึ่งยังอยู่ในระหว่างการดำเนินการโดยรัฐบาลรัฐราชสถาน
16.00 น. นำท่านชมฮาวามาฮาลหรือพระราชวังสายลม สร้างโดยพระเจ้าประทับซิงค์ ในปี ค.ศ. 1799 ใช้เป็นที่ที่สตรีชาววังในสมัยนั้นสำหรับนั่งชมเทศกาลหรือขบวนแห่ต่าง ๆ ตลอดจนวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนนอกวังบานหน้าต่างที่ประดับประดาไว้ด้วยลวดลายอันวิจิตรตระการตา สร้างด้วยหินสีชมพูสูง 5 ชั้น กรุเป็นช่องตามหน้ามุขและหน้าต่างซึ่งรวมกันถึง 953 บาน ซึ่งในแต่ละช่องจะมีมุขระเบียงและหลังคาเพื่อระบายลม เป็นที่มาของชื่อ ฮาวามาฮาล (พระราชวังสายลม) แวะซื้อสินค้าพื้นเมืองที่ตลาด อาทิเช่น หัตกรรมอันวิจิตร สิ่งทอสวยงาม เครื่องประดับ สีสันต์ของเมืองนี้เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์
19.00 น. ถวายน้ำปานะ // รับประทานอาหารค่ำที่ ภัตตาคาร
20.00 น. นำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินเมืองชัยปุระ
00.15 น. นำท่านออกเดินทางกลับสู่…
กรุงเทพฯ โดยสายการบินไทยแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD 131
06.20 น. เดินทางถึง…สนามบินดอนเมือง โดยสวัสดิ์ภาพและประทับใจ
สำรองที่นั่ง และเงื่อนไขได้ที่ : คุณเอ โทร. 02-2472517
มือถือ 081-8246611
1. หนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) ต้องเหลืออายุการใช้งานมากกว่า 6 เดือน นับจากวันที่เดินทาง
2. รูปถ่ายสี 2 x 2 นิ้ว(ขนาดสี่เหลี่ยมจตุรัส) จำนวน 3 รูป (ห้ามปริ๊นจากคอมพิวเตอร์) ฉากหลังสีขาวเท่านั้น
3. สำเนาทะเบียนบ้าน 1 ชุด // สำเนาบัตรประชาชน 1 ชุดพร้อมเซ็นต์ชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง
4. สำเนาใบสุทธิพระ 1 ชุด เซ็นต์ชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง
5. เอกสารการทำงาน ชื่อ ที่อยู่บริษัท ตำแหน่งการทำงาน
หมายเหตุ: วีซ่าประเทศอินเดียใช้เวลาทำการยื่น 5 – 8 วันทำการไม่นับวันหยุด /เนปาลใช้เวลายื่น 4 วัน (เริ่ม 8 กรกฎาคม.2556 เป็นต้นไปสถานฑูตอินเดียเปลี่ยนการยื่นวีซ่าระบบใหม่จากที่รับเล่มที่สถานฑูตเปลี่ยนเป็นรับเล่มที่ทำการไปรษณีย์แทน ถ้าท่านใดที่จะเดินทางประเทศอินเดียจะต้องทำการยืนวีซ่า 1 เดือนก่อนการเดินทางเพื่อไม่ให้เกิดการผิดพลาด
บินโดยสายการบินไทยแอร์เอเชีย
อัตราค่าบริการ | 15 ท่าน |
พระภิกษุสงฆ์ | ราคา 54,800 บาท |
ผู้ใหญ่ ท่านละ | 60,800 บาท |
พักเดี่ยวเพิ่มท่านละ | 13,500.-บาท |
หมายเหตุ อัตราค่าบริการนี้จะต้องมีผู้โดยสาร (ผู้ใหญ่) ตั้งแต่ 15 ท่านขึ้นไป
ค่าบริการนี้รวม
1. ตั๋วเครื่องบิน โดยสายการบินไทยแอร์เอเชีย ชั้นนักท่องเที่ยวเส้นทางกรุงเทพฯ-คยา//ชัยปุระ-กรุงเทพฯ
2. ภาษีสนามบินสุวรรณภูมิ และที่อินเดีย
3. ที่พักโรงแรมระดับ 4 ดาว และอาหารตามที่ระบุในรายการ
4. รถปรับอากาศ พร้อมพนักงานขับรถผู้ชำนาญ เส้นทางนำเที่ยวตามรายการ
5. ค่าธรรมเนียมในการเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว
6. ค่าธรรมเนียมวีซ่า ประเทศอินเดีย และ ประเทศเนปาล
7. ประกันอุบัติเหตุ การเดินทาง
8. หัวหน้าทัวร์ผู้มีประสบการณ์การเดินทางคอยอำนวยความสะดวกจำนวน 1 ท่านตลอดการเดินทาง
9. พระวิทยากร 1 รูป
• กรณีการเสียชีวิต วงเงินท่านละ 1,000,000 บาท
ยกเว้นมีการตกลงในกรณีพิเศษ
เงื่อนไขการเดินทาง
การชำระเงิน ท่านสามารถติดต่อทางบริษัท ฯ ดังรายละเอียดดังนี้
*** ในกรณีที่ท่านโอนเงินจากต่างจังหวัด อัตราดังกล่าวเป็นอัตราสุทธิ ไม่รวมค่าธรรมเนียมและค่าบริการของธนาคาร ***หมายเหตุ : อนึ่งกรุณาแฟกซ์หลักฐานการโอนเงินมาที่เบอร์ 02-2472515-16 หรือแจ้งให้เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ ทราบถึงการโอนเงินของท่านทางโทรศัพท์หากท่านไม่สามารถแฟกซ์ได้จักเป็นพระคุณยิ่ง
1. ภายใน 03 วัน ก่อนการเดินทางทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ ไม่คืนเงินค่าเดินทาง
2. ภายใน 07 วัน ก่อนการเดินทางทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ คืนเงินค่าเดินทางเพียง 50%
3. ภายใน 14 วัน ก่อนการเดินทางทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ ไม่คืนเงินค่ามัดจำ 10,000 บาท
4. ยกเว้นกรุ๊ปที่เดินทางช่วงวันหยุดหรือเทศกาลที่ต้องการันตีค่ามัดจำที่พักโดยตรง หรือโดยผ่าน
ตัวแทนในประเทศหรือต่างประเทศ และไม่อาจขอคืนเงินได้ ถ้าท่านสมาชิกได้ทำการโอนเงินแล้วกรุณา FAX หลักฐานการโอนเงิน ระบุชื่อผู้จองทั้งภาษาไทยและ ภาษาอังกฤษ, โปรแกรมที่จอง วันที่เดินทาง, จำนวนสมาชิกและเบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้ และสำเนาหนังสือ เดินทาง ของท่าน
เงื่อนไขและความรับผิดชอบ
บริษัทเป็นเพียงตัวแทนการท่องเที่ยว สายการบิน และ ตัวแทนการท่องเที่ยวในต่างประเทศ ซึ่งไม่อาจรับผิดชอบต่อความเสียหายต่างๆ ที่อยู่เหนือการควบคุมของเจ้าหน้าที่บริษัทฯ อาทิ การนัดหยุดงาน การจลาจล เปลี่ยนแปลงกำหนดเวลาในตารางบิน ภัยธรรมชาติ ฯลฯ หรือค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่เกิดขึ้นทั้งทางตรงหรือทางอ้อมเช่น การเจ็บป่วย การถูกทำร้าย การสูญหาย ความล่าช้าหรือจากอุบัติเหตุต่างๆ ฯลฯ ต่อการตอบปฏิเสธการเข้าและออกเมืองของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าหรือออกเมือง อันเนื่องมาจากมีสิ่งผิดกฎหมาย หรือเอกสารการเดินทางไม่ถูกต้อง หรือการถูกปฏิเสธในกรณีอื่นๆ